ยินดีตอนรับ

club สุขภาพ มีสิ่งดีๆแนะนำมากมายให้ค้นหาค่ะ



วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

อาหาร 6 คู่ กินแล้วดี

 
     สาวๆ หลายคนทราบกันอยู่แล้วใช่ไหมคะว่า "อาหาร" นั้นเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่ร่างกายของเราทุกๆ คนต้องการ
มากที่สุด แล้วคุณสาวๆ รู้กันอีกรึป่าวคะว่าอาหารบางชนิดนั้นหากได้จับคู่กันแล้ว รับรองว่าจะเพิ่มประโยชน์ต่อร่าง
กายคุณอย่างมากเลยที่เดียว... วันนี้ women.mthai ขอแนะนำอาหารคู่กินแล้วดีต่อสุขภาพทั้ง 6 คู่ค่ะ




     1.หอยนางรมกับมะนาว : หอยนามรมเป็นอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ทั้ง วิตามินเอ
วิตามินบีหนึ่ง แร่เหล็ก ไอโอดีน แมกนีเซียม แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งการบีบมะนาวลงไปจะช่วยทำให้หยุดการเจริญ
เติบโตของแบคทีเรียและช่วยขจัดกลิ่นคาวของหอยนางรมได้ แต่ขอแนะนำว่าควรกินหอยนางรมแบบที่ปรุงสุก
แล้วจะดีกว่า เพราะไม่อย่างงั้นแล้วอาจจะมีอาการท้องเสียได้นะคะ




     2.เต้าหู้กับสาหร่ายทะเล : ถ้าพูดถึง 2 สิ่งนี้แล้ว จะนึกถึงเมนูต้มจืดสาหร่ายใส่เต้าหู้เลยค่ะ เพราะเป็นอาหารที่
ทำง่าย แถมอร่อยด้วย โดยเต้าหู้เป็นอาหารมีสารซาโปนิน ซึ่งถ้าเรากินในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ไอโอดีน
ในร่างกายลดลงได้ แต่ถ้ากินกับคู่กับสาหร่ายทะเลล่ะก็ ไม่ต้องกังวลเรื่องดังกล่าวเลยจ้ะ เพราะในสาหร่ายทะเล
เป็นแหล่งรวมไอโอดีนนั้นเอง




     3.มันฝรั่งกับชีส : ว่ากันว่ามันฝรั่งอบชีส จะต้องเป็นเมนูอาหารจานโปรดของใครหลายคนเลยใช่ไหมคะ เพราะ
ความอร่อยที่แค่พูดถึงแล้วก็อยากจะกินเลย ซึ่งรู้กันหรือไม่ว่าชีสสามารถช่วยเติมโปรตีนและไขมันที่มันฝรั่งไม่มี
ให้กับร่างกายได้ ทำให้เป็นเมนูที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายจริงๆ



     4.แครอทกับน้ำมันทอด : นอกจากจะเป็นผักที่มีสีสันสวยงามทำให้อาหารดูน่ากินแล้ว แครอทยังเป็นแหล่ง
รวมวิตามินเอที่ไม่ละลายในน้ำมันอีกด้วย ซึ่งการกินให้ได้ประโยชน์มากที่สุดนั้นจึงควรที่จะนำมาปรุงเป็นอาหาร
และเติมน้ำมันลงไปเล้กน้อยเพื่อเป็นการช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ สำหรับในกรณีที่นำแครอทไปปั่นเป็น
น้ำผลไม้นั้น จะทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมวิตามินเอไปใช้ได้ ดังนั้นจึงควรนำมาทำเป็นอาหารกินดีกว่านะคะ




     5.ข้าวเหนียวกับพุทรา : อาหาร 2ชนิดนี้ถือว่าเป็นตัวช่วยของกันและกันจริงๆ เพราะข้าวเหนียวมีวิตามินบี 1
และวิตามินบี 2 แถมยังช่วยในเรื่องการย่อยอาหารอีกด้วย ส่วนพุทรานั้นก็อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก และแคลเซียม
ที่ข้าวเหนียวไม่มี




     6.ผักโขมกับงา : ผักโขมเป็นผักที่มีวิตามินและแร่ธาตุมากมาย ทั้ง วิตามินเอ วิตามินซี กรดอะมิโน
ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน ฯลฯ ซึ่งกรดออกซาลิกที่มีอยู่ในผักชนิดนี้ ถ้าไปรวมตัวกับแคลเซียมอาจจะ
ทำให้เกิดก้อนนิ่วได้ แต่ถ้ากินคู่กับงาล่ะก็ปัญหานี้จะหายไป เพราะงานั้นมีสรรพคุณในการป้องกันการเกิดก้อนนิ่ว
และยังมีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินบี ที่ผักโขมไม่มีอีกด้วย





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น